บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2020

EXP.17 ปีพันธกิจสุขภาวะสภาคริสตจักรฯEP.4 "หน้าที่ของคนไทยในระบบหลักประกันสุขภาพ "

รูปภาพ
 บทความ เรื่อง  การตรวจสอบสิทธิ รักษาพยาบาล และการลงทะเบียน       คนไทยทุกคนมีสิทธิรักษาพยาบาลตามกฎหมาย จึงมีความจำเป็นที่ควรต้องตรวจสอบสิทธิในการรักษาพยาบาลของตนเอง เพื่อความสะดวกและเตรียมความพร้อมในการออกไปใช้สิทธิของตนเองเองเพื่อเข้าไปรับบริการได้ อย่างถูกต้อง ช่องทางการตรวจสอบสิทธิการรักษาพยาบาล  1. ติดต่อด้วยตนเองได้ที่สถานีอนามัย/โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้านหรือ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด สำหรับผู้พักอาศัยในกรุงเทพมหานคร สามารถติดต่อ สำนักงานเขตของ กทม. หรือสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เขต 13 กทม. 2. บริการตรวจสอบสิทธิรักษาพยาบาลด้วยระบบอัตโนมัติ • โทร.1330 กด 2 ตามด้วยเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ค่าบริการ 3 บาท/ครั้ง) • ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ทาง www.nhso.go.th  สถานที่รับลงทะเบียน   สำหรับผู้ใช้สิทธิหลักประกันสุภาพ • ต่างจังหวัดท่านสามารถติดต่อประสานงานที่ : โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพสต.)หรือสถานีอนามัย โรงพยาบาลของรัฐใกล้บ้าน หรือสำนักงาน สาธารณสุขจังหวัด ในวันเวลาราชการ • กรุงเทพมหานคร : สำนักงานเขตของกรุงเทพมหานคร หรือสำนักงาน หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.)

EXP.17 ปีพันธกิจสุขภาวะสภาคริสตจักรฯEP.3 "สิทธิหลักประกันสุขภาพตามกฎหมาย "

รูปภาพ
 บทความ  เรื่อง สิทธิในระบบหลักประกัน       เมื่อเราพูดถึงสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทที่เราเข้าใจนั้นหลายคนยังคงมีความเข้าใจว่าเป็นสิทธิที่ได้มาเนื่องจากเราเป็นคนจน หรือบางคนเข้าใจว่ามันเป็นสิทธิอานาถา แต่วันนี้อยากมาไขความเข้าใจให้กับทุกคนได้เข้าใจใหม่ว่า สิทธินี้เป็นสิทธิที่เราได้มาตาม พ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติพ.ศ. 2545 ระบุให้คนไทยทุกคนมีสิทธิได้รับ บริการสาธารณสุขที่มีมาตรฐานและมีประสิทธิภาพ โดยจัดให้มี“กองทุนหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ” เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย สนับสนุนและส่งเสริมการจัดบริการสาธารณสุข ของหน่วยบริการ ส่งเสริมให้คนไทยสามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึง และมีประสิทธิภาพ ซึ่งทุกคนที่มีบัตรประจำตัวประชาชนสามารถใช้สิทธิได้ไม่ว่าคุณจะเป็นคนยากจน มีรายได้น้อย หรือคนร่ำรวย ก็สามารถใช้สิทธินี้ได้ หากคุณไม่ได้ใช้สิทธิข้าราชการ และสิทธิประกันสังคม ซึ่งเราต้องใช้ตามสิทธิที่เรามีโดยเลือกใช้สิทธิใดสิทธิหนึ่งนะครับ       สิทธิหลักประกันสุขภาพ” หรือที่รู้จักกันในนาม “สิทธิ 30 บาท หรือสิทธิบัตรทอง” จึงเป็นสิทธิตามกฎหมายที่คนไทยทุกคนมีสิทธิเข้าถึ

EXP.17 ปีพันธกิจสุขภาวะสภาคริสตจักรฯEP.2 "สิทธิการรักษาพยาบาล 3 ระบบของคนไทย"

รูปภาพ
 บทความ เรื่อง "สิทธิการรักษาพยาบาล 3 ระบบของคนไทย"      คนไทยได้รับการคุ้มครองสิทธิการรักษาพยาบาลจากรัฐบาล โดยสิทธิการรักษา พยาบาล มี3 ระบบใหญ่ คือ 1) สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ 2) สิทธิประกันสังคม และ 3) สิทธิหลักประกันสุขภาพ 30 บาท ซึ่งรัฐบาลให้การดูแล ค่าใช้จ่ายแตกต่างกันดังนี้  สิทธิสวัสดิการการรักษาพยาบาลของข้าราชการ คุ้มครองบริการรักษา พยาบาลให้กับข้าราชการและบุคคลในครอบครัว (บิดา มารดา คู่สมรสและบุตรที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย) เมื่อเจ็บป่วยสามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาล ของรัฐ โดยมีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ดูแลระบบออกกฎระเบียบ  สิทธิประกันสังคม คุ้มครองบริการรักษาพยาบาลให้กับผู้ประกันตนตามสิทธิ สามารถเข้ารับบริการรักษาพยาบาลได้ที่โรงพยาบาลที่เลือกลงทะเบียน โดยสำนักงาน ประกันสังคม กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ทำหน้าที่ดูแลระบบการ เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาล สิทธิรักษาพยาบาล 3 ระบบของคนไทย 10 เรื่องควรรู้สิทธิหลักประกันสุขภาพ 5  สิทธิในหลักประกันสุขภาพแห่งชาติถ้วนหน้า(หรือบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค) คุ้มครองบุคคลที่เป็นคนไทยมีเลข ประจำต

#Lahu song : Suh ve eh Bvuh/K'a : Meu geu

รูปภาพ
 Lihkaw : Suh ve eh  Bvuh/K'a : Meu geu  

EXP.17 ปีพันธกิจสุขภาวะสภาคริสตจักรฯEP.1"ครอบครัวคริสเตียนกับสุขภาวะ(สุขภาพ)"

รูปภาพ
บทความเรื่อง... ความหมายและมิติทางด้านสุขภาวะ(สุขภาพในด้านมิติต่างๆ) ( "พระเยซูก็ได้จำเริญขึ้นในด้านสติปัญญา ในด้านร่างกาย และเป็นที่ชอบจำเพาะพระเจ้า และต่อหน้าคนทั้งปวงด้วย" ลูกา 2:52 TH1971 ) ในมุมมองของผู้เขียน  เมื่อพูดถึงระบบ สุขภาวะ  หรือ  สุขภาพ  หมายถึง ภาวะของมนุษย ์ที่มีความสมบูรณ ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทาง ปัญญา และทางสังคม เชื่อมโยงกันเป็นองค์รวมอย่างสมดุล (พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๐) แต่...ในมุมมองความคิดข องผู้เขียนเองนั้นจะขอใช้สุขภาพมิติทางด้าน" จิตวิญญาณ " แทน คำว่า สุขภาพทางด้าน"ปัญญา" ขอออกตัวก่อนนะครับ เนื่องจากผู้เขียนเองเป็นคริสเตียนจึงขอใช้ศัพท์ทางศาสนาคริสต์ แต่จากการเข้าร่วมสัมนากับเครือข่ายศาสนาต่างๆที่ผ่านมานั้นเราสามารถใช้แทนกันได้(ความยำเกรงพระเจ้าเป็นบ่อเกิดแห่งปัญญา สภษ.9:10) หรือบางที(บางคน)ใช้คำว่าสิ่งสูงสุดแทน จึงขอสรุปเรื่องของระบบสุขภาวะทั้ง 4 มิติ คือมิติทางด้านร่างกาย ด้านจิตใจ/อารมณ์ ด้านจิตวิญญาณ และทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะขออธิบายแบบนี้ครับ  ในพระคัมภีร์ของคริ สเตียนได้ไกล่าวไว้ว่า...พระเจ้ามีแผนงานเพื่อมน

เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของบะเม่

รูปภาพ
เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของบะเม่ เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของ นายบะเม่ จะที นายบะเม่ จะที อายุ 36 ปี บ้านเดิมเกิดที่ประเทศพม่า แต่ย้ายมาอยู่ที่เมืองไทยนานมากแล้วครั้งแรกอยู่บ้านห้วยตาด ปัจจุบันอยู่บ้านห้วยละโบ๊ นายบะเม่ เคยแต่งงานมาก่อนครั้งหนึ่งกับนางลิเม่ จะที และมีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อเด็กหญิงอลิซาเบ็ธ จะที อายุ 12 ขวบ (ปัจจุบันอาศัยอยู่กับตา-ยายบ้านภภรยาก่อน) หลังจากที่แม่เสียเสียชีวิตไป คุณบะเม่ จะทีก็ได้ไปแต่งงานใหม่กับกับนางนาแส จะที และมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนที่ 1 ชื่อเด็กหญิงนาไพร จะที อายุ 7 ขวบ คนที่2 ชื่อเด็กชายยอละ จะที อายุ 6 ขวบ คนที่3 ชื่อเด็กหญิง....เกิด 5/08/2549 ขวบ เรา รู้จักกับครอบครัวบะเม่ จะที โดยการประสานจากคริสตจักรนาซารีนอำเภอแม่แตง เนื่องจากว่าเคยได้ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อคนหนึ่งที่มานมัสการที่โบสถ์แม่แตงเมื่อก่อนหน้านี้ ในครั้งแรกเราได้นัดลงมาทั้งครอบครัวคือทั้งสามี และภรรยา เพื่อนำไปตรวจหาค่าภูมิคุ้มกันที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อเอาไปฝากเข้าโครงการวิจัยยาต้านไวรัสของสถาบันวิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลปรากฏว่าทางคุณบะเม่ จะที นั้นมีภูมิคุ้มชนิดซีดี

เรื่องเล่านาอื่อ จะแล

รูปภาพ
เรื่องเล่า ประวัติครอบครัวนางนาอื่อ จะแล นางนาอื่อ จะแล อายุ 30 ปี เป็นชาวบ้านเจียจันทร์ เคยแต่งงานครั้งแรกเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วกับนายจะคะ ปะปู มีบุตรธิดา 1 คน คือเด็กหญิงนิชชา ปะปู ปัจจุบันอายุ 10 ปี กำลังเรียนอยู่ชั้น ป.4 โรงเรียนบ้านเมืองนะ ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ สามีคนแรกเสียชีวิตเมื่อบุตรสาวอายุได้ 2 เดือน หลังจากนั้นไม่นานได้อยู่กินกับแฟนใหม่ชื่อนายจะสี จะลอ มีบุตรด้วยกัน 2 คน ชื่อเด็กชายจะสอ จะแล และเด็กชายยะแฮ จะแล นายจะสี จะลอ ได้ด่วนจากไปด้วยโรควัณโรคเมื่อปี 2006 ครอบครัวนางนาอื่อ จะแล ปัจจุบันไม่มีที่ดินและบ้านเป็นของตัวเองแล้ว อาศัยอยู่บ้านญาติสามีคนแรกที่เสียชีวิตไปแล้ว ซึ่งอยู่ด้วยกันอย่างแออัด 11 คนในบ้านหลังเล็กๆ(ประมาณ2.5x4 เมตร) ครอบครัวนางนาอื่อ จะแล ในปัจจุบัน มีความลำบากมาก หลังจากที่สามีล้มป่วยและเสียชีวิตไป เนื่องจากต้องหาเลี้ยงครอบครัวด้วยตนเองตามมีตามเกิด และลำบากมากขึ้นเมื่อนางนาอื่อ จะแล ต้องมาโดนโรคฉวยโอกาสรุมเร้า (มีอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นหน้าอก จุกเสียด หายใจไม่ทั่วท้องและทานอาหารไม่ได้) แต่ไม่มีเงินค่าไปหาหมอ,ไม่มีเงินซื้อยา,ซื้ออาหาร

งานส่งเสริมการติดตามดูแลกลุ่มชาติพันธุ์โครงการพันธกิจเอดส์ฯ

รูปภาพ
งานบริการการติดตามดูแลของกลุ่มชาติพันธุ์ในปี 1พ.ค.2010-30เม.ย.2011 จำนวนกลุ่มเป้าหมายที่ดูแลอยู่ตั้งแต่ 1พ.ค.2010-30 เม.ย 2011 รวมจำนวนทั้งหมด 103 คน เสียชีวิต 2 คน คงเหลือ 101 คน และในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อรายใหม่ 10 คนแยกเป็นชาย 5 คน หญิง 5 คน ในแต่ละพื้นที่ดังนี้ • พื้นที่เชียงดาวจำนวน 46 คน • พื้นที่เมืองจำนวน 17 คน • พื้นที่ดอยสะเก็ดจำนวน 20 คน • พื้นที่แม่แตงจำนวน 11 คน • พื้นที่แม่ริมจำนวน 2 คน • พื้นที่อ๋มก๋อยจำนวน 1 คน • พื้นที่แม่อายจำนวน 4 คน • พื้นที่สันทราย 2 คน กิจกรรมที่ได้ทำ 1. การให้คำปรึกษากับผู้ติดเชื้อและผู้ที่ได้รับผลกระทบทั้งโดยตรงและทางโทรศัพท์ 2. การสร้างอาสาสมัครเพื่อการติดตามดูแลผู้ติดเชื้อ/ผู้ป่วยเอดส์ / ผู้ได้รับผลกระทบที่บ้านและชุมชนจำนวน 6 คน ในพื้นที่ตำบลเมืองนะอำเภอเชียงดาว 5 คน( 8 หมู่บ้าน) และตำบลเชิงดอยอำเภอดอยสะเก็ด 1 คน(4 หมู่บ้าน) 3. การประสานภาคีเครือข่ายเพื่อระดมทุนในการสร้างบ้านให้แก่คนไข้ที่บ้านโดนไฟไหม้จำนวน 1 หลัง 4. งานเชื่อมประสานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ