บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก กันยายน, 2007

เรื่องเล่าจากชีวิตจริง

รูปภาพ
เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของ นายบะเม่ จะที นายบะเม่ จะที อายุ 36 ปี บ้านเดิมอยู่ที่บ้านห้วยตาด ต.อินทขิน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ แต่ปัจจุบันอยู่บ้านห้วยละโบ๊ ต.บ้านเป้า อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ นายบะเม่ เคยแต่งงานมาก่อนครั้งหนึ่งกับนางลิเม่ จะที และมีลูกด้วยกัน 1 คนชื่อเด็กหญิงอลิซาเบ็ธ จะที อายุ 12 ขวบ (ปัจจุบันอาศัยอยู่กับตา-ยายบ้านภภรยาก่อน) หลังจากที่แม่เสียเสียชีวิตไป คุณบะเม่ จะทีก็ได้ไปแต่งงานใหม่กับกับนางนาแส จะที และมีบุตรด้วยกัน 3 คน คนที่ 1 ชื่อเด็กหญิงนาไพร จะที อายุ 7 ขวบ คนที่2 ชื่อเด็กชายยอละ จะที อายุ 6 ขวบ คนที่3 ชื่อเด็กหญิง....เกิด 5/08/2549 ขวบ เรา รู้จักกับครอบครัวบะเม่ จะที โดยการประสานจากคริสตจักรนาซารีนอำเภอแม่แตง เนื่องจากว่าเคยได้ช่วยเหลือผู้ติดเชื้อคนหนึ่งที่มานมัสการที่โบสถ์แม่แตงเมื่อก่อนหน้านี้ ในครั้งแรกเราได้นัดลงมาทั้งครอบครัวคือทั้งสามี และภรรยา เพื่อนำไปตรวจหาค่าภูมิคุ้มกันที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อเอาไปฝากเข้าโครงการวิจัยยาต้านไวรัสของสถาบันวิจัยสุขภาพ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผลปรากฏว่าทางคุณบะเม่ จะที นั้นมีภูมิคุ้มชนิดซีดีสี่เป็นศูนย์ ขณะที่ภรรยาม

นี่หรือชิดขวา?

รูปภาพ
นี่หรือชิดขวา ?      เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่า บ่ายวันหนึ่งผมได้พาคนไข้(ผู้ติดเชื้อHIV)คนหนึ่งไปซื้อกับข้าวที่ตลาดในเมืองเชียงใหม่ซึ่งใช้เวลาจากบ้านพักถึงตลาดก็ไม่ไกลสักเท่าไร และโดยที่ตนเองเป็นคนชอบเร่งรีบมากจึงคิดว่าไม่มีปัญหาอะไรจึงได้จอดรถยนต์ไว้ตรงกันข้ามกับเรนที่เราขับขี่ผ่านมาโดยหันหน้าไปทางเดียวกับทางที่เราขับขี่เนื่องจากเห็นว่าที่มันว่างๆพอดี ผลปรากฏว่าเดินเข้าตลาดเพียงไม่กี่นาทีรถยนต์ก็โดนล็อคล้อเรียบร้อย หลังจากที่วิ่งกลับมาเจอพอดีก็เลยถามแม่ค้าที่อยู่แถวนั้นเขาก็บอกว่าเดี๋ยวเขาก็มา เราสองคนก็ยืนรอที่นั่นประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไปก็มีจราจรผ่านมา เราก็เรียกเขาแต่เขาไม่ได้จอดเพียงแต่เอิ้นบอกมาว่าเดี๋ยวมา เราก็เลยยืนตากแดดรออีกประมาณสิบห้านาทีเขาก็มาพอดี ระหว่างรอแดดร้อนมากเช็ดเหงื่อตลอดเวลาคนไข้ก็เกือบจะเป็นลมจึงได้ให้ไปนั่งพักในร้านค้า เมื่อเจ้าหน้าที่จราจรมาถึงผมเองก็ได้ถามกับเขาโดยความไม่รู้ว่า...พี่ๆทำไมจึงล็อคล้อรถผม? แล้วเขาก็ตอบมาว่า....ก็คุณจอดชิดขวานี่....แต่เรายังไม่เข้าใจอีกก็เลยถามต่อไปว่าเอ้า...!พี่ทำไมถึงจอดไม่ได้ล่ะ?....เขาก็ตอบมาว่าไม่ใช่ว่าจอดไม่ได้แต่คุณจะต้องจอ

ชีวิตวันนี้ของนายบะเม่ จะที 2

รูปภาพ
เรื่องเล่าจากชีวิตจริงของบะเม่ ชีวิตวันนี้ของนายบะเม่ จะที 2 นายบะเม่ จะที ในปัจจุบันยังคงพักฟื้นร่างกายและรักษาตัวอยู่ที่บ้านสบาย หากเราสังเกตดูเฉพาะภายนอกร่างกายแล้วดูดีขึ้นมามาก หลังจากที่ได้รับยาต้านไวรัส ควบคู่กับยารักษาวัณโรคทั้งๆที่เมื่อแพทย์ทำการตรวจวินิจฉัยแล้วไม่พบว่ามีเชื้อวัณโรคเลยเพียงแต่ว่าอาการที่เขากำลังเป็นอยู่นั้นเป็นเหมือนกับคนที่กำลังป่วยเป็นวัณโรค นี่ก็เป็นเวลาสองเดือนกว่าแล้วที่เขารับยาต้านไวรัสพร้อมยาวัณโรค ที่ผ่านมาเขาได้รับการช่วยเหลือในเรื่องของค่ารักษาจากบ้านสบายตลอดมาจนถึงเวลานี้ เมื่อเราดูจากภายนอกแล้วเหมือนร่างกายของเขาจะดีขึ้นมากและแข็งแรงกินอาหารได้ตามปกติทุกอย่าง แต่จากการให้คำปรึกษา / คำแนะนำ และพูดคุยปรากฏว่าเขาไม่ค่อยมีเรี่ยวแรงเลย เขาจะรู้สึกอ่อนเพลียตลอดเวลา เมื่อเราถาม ได้เจาะลึกลงไปว่ากำลังคิดอะไรและตอนนี้รู้สึกอย่างไร? เขาก็บอกว่าคิดถึงบ้าน คิดถึงลูกและภรรยา ในที่สุดทางเจ้าหน้าที่บ้านสบายก็ได้ส่งเขากลับไปเยี่ยมที่บ้านเมื่อวันที่ 29 สิงหาคม 2007 โดยได้ไปส่งเขาที่บ้านและปล่อยให้อยู่กับลูกและภรรยาหลายชั่วโมง แล้วจึงได้ไปรับกลับมาก็รู้สึกดูกระปรี่กร